Acerca de

👁 Visione! 👁
composer: Francesco Paolo Tosti
librettist: Gabriele d' Annunzio
Guest musicians
Prince Phumirin Chantanayingyong (Cellist)
Gift Napasorn Lawasinaporn (Pianist)
" ดวงอาทิตย์หัวเราะร่า เมฆาอันปรอดโปร่ง
ทั้งสองโลดแล่นบนนภา
และฉันรู้สึกถึงความหนาวเหน็บในเส้นโลหิตของฉัน
และฉันรู้สึกถึงความตายในหัวใจของฉัน
ว่าแต่คุณคือใครกันนะ? สายตาที่อ่อนโยนนั่น
คุณกำลังผายอ้อมแขนอันอ่อนล้ามาให้ฉันอย่างนั้นหรอ?
คุณกระซิบเพลงสุดท้ายให้ฉันฟัง
ทุ่งแห่งดอกไม้ที่มีผีเสื้อสีขาว
ดวงอาทิตย์หัวเราะร่า ดอกอคาเซียอันบานสะพรั่ง
ส่งคลื่นกลิ่นหอมโชยมา
และพรุ่งนี้ฉันจะกลับไปอยู่ในความมืดอันน่าสยองขวัญ
ดั่งเถ้ากระดูก ความโดดเดี่ยว ความเศร้าโศกได้ถูกแช่แข็งไว้!
แต่คุณก็อยู่ตรงนั้นด้วย แววตาอันซื่อสัตย์
คุณจะปลอบประโลมฉันด้วยอ้อมแขนอันเหนื่อยล้านั่นจริงๆหรือ?
โอ้! ใช่สิ บทเพลงสุดท้ายที่ถูกบรรเลงซ้ำๆ
ไปยังทุ่งแห่งดอกไม้ที่มีผีเสื้อสีขาว "
จุดที่น่าสนใจของบทประพันธ์นี้คือการเปลี่ยนอารมณ์ไปมาของทำนองตามแต่ละท่อนจากหม่นหมองไปสดใส จะเห็นได้ชัดเมื่อฟังจากเนื้อร้องตามไปด้วย ท่วงทำนองที่เนื้อเพลงพูดถึงชีวิตของตนเองจะอยู่ใน minor key ทำให้รู้สึกได้ถึงความหม่นหมอง แต่ท่อนที่พูดถึง Visione (ในภาษาอิตาเลียนแปลว่า สายตา/แววตา) ใน major key จะมีท่วงทำนองที่สว่างสดใส และทำนองของทั้ง 3 เครื่องดนตรี
(เสียงร้อง, Violancello และ Piano) จะมีการเล่นโต้ตอบกัน โดยจะได้ยินในช่วงต้นของแต่ละท่อน และช่วงสุดท้ายของบทประพันธ์ ซึ่งให้ความรู้สึกราวกับว่าเครื่องดนตรีทั้งหมดกำลังสนทนากันโดยการบรรเลงดนตรี
✏️ Recall Diary ✏️

สามารถเปรียบ Visione เป็นเพื่อนคนหนึ่งที่พร้อมจะปลอบประโลมเราเสมอถึงแม้ว่าตัวเองจะบอบช้ำเช่นเดียวกันก็ตาม และบทเพลงสุดท้ายคือสิ่งที่ Visione ใช้เยียวยาเราทุกครั้ง ซึ่ง Visione! ยังเป็นบทประพันธ์ที่ใช้เล่นรวมวงกับกลุ่มเพื่อนที่สนิทที่มักจะพูดคุยกันอยู่เสมอรวมถึงรับฟังปัญหาซึ่งกันและกัน เปรียบเสมือน Vision ที่คอยมอบแสงสว่างให้กันและกันถึงแม้ว่าแต่ละคนจะมีฝนตกอยู่ในใจก็ตาม



วันอัด recital เพื่อนๆ มาช่วยเป็นทีมงานด้วย 💙


วง chamber และพี่เอมิ อาจารย์คุมวง
อยู๋ด้วยกัน 24 ชม.😅
